นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด


  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ชื่อและนามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ที่อยู่ หมายเลขติดต่อ ภาพถ่าย ที่อยู่อีเมล ภาพจากกล้องวงจรปิด
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว หมายถึง ประเภทเฉพาะของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ต้นกำเนิดเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ บันทึกประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ
  • ชื่อ นามสกุล สัญชาติเพศ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานที่เกิด ส่วนสูง น้ำหนัก ปาน ภาพถ่าย สถานภาพการสมรส และสถานภาพทางการทหาร
  • หมายเลขติดต่อ ที่อยู่และอีเมล
  • บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ทะเบียนสมรส และ ทะเบียนบ้าน
  • รายละเอียดบัญชีธนาคาร และสมุดบัญชีธนาคาร
  • ภาพจากกล้องวงจรปิด และ/หรือ
  • ข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านมอบให้บริษัทฯ
  • เชื้อชาติ
  • ศาสนา
  • บันทึกประวัติอาชญากรรม การกล่าวหาทางอาญา และการดำเนินคดีทางอาญา
  • ลายพิมพ์นิ้วมือและข้อมูลการจดจำใบหน้า และ/หรือ
  • ข้อมูลสุขภาพ (เช่น สภาพร่างกาย ผลตรวจสุขภาพ ใบรับรองแพทย์ หมู่เลือด การรักษา อายุครรภ์ ผลการทดสอบสารเสพติด ฯลฯ)
ก) บริษัทฯ ขอรับความยินยอมจากท่านในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (vital interest) หรือเพื่อ ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ค) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อ ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
ง) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่มอบให้แก่บริษัทฯ
จ) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (legitimate interest) ของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอก เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าประโยชน์หรือสิทธิและ เสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่าน
ฉ) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้ง การเรียกร้อง การใช้สิทธิหรือการยกขึ้น ต่อสู้ซึ่งข้อเรียกร้องทางกฎหมายกับท่าน หรือ
ช) บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทฯ อยู่ ภายใต้บังคับ

  • การสรรหาและคัดเลือกการสมัครงานของท่านก่อนเข้าทำสัญญาจ้างงาน
  • การสร้าง การควบคุม การมอบอำนาจ การประสานงาน การร่วมมือ การบริหารจัดการ การสิ้นสุดและการดำเนินการ อื่น ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในการจ้างงาน หรือธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัทฯ
  • การจัดหา การประกวดราคา การออก การอนุมัติ หรือการเข้าทำสัญญา รวมถึงการสร้างและรักษาบัญชีของท่านที่มีกับ บริษัทฯ
  • การใช้สิทธิหรือปฏิบัติตามหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ทำขึ้น
  • การเข้าร่วมในกิจกรรมหรือการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัทฯ เช่น กิจกรรมชิงโชค กิจกรรมแลกของ รางวัลหรือสินค้า กิจกรรมที่จัดให้แก่ลูกค้าประจำ กิจกรรมมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด
  • การผลิต การบริหาร การตรวจสอบ การจัดการ และการดำเนินงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ
  • การจัดส่งสินค้าและ/หรือบริการให้แก่ท่าน หรือ
  • การชำระเงิน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สามเพื่อการชำระเงินดังกล่าว และ ให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต


  • การเก็บรวบรวมและประมวลผลเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปที่ได้รับมาจากเว็บไซต์สมัครงานเพื่อการสรรหาและ การจ้างงาน
  • การเก็บรวบรวมและประมวลผลเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของผู้รับผลประโยชน์ของพนักงานเพื่อการแต่งตั้ง ผู้รับผลประโยชน์
  • การเก็บรวบรวมและประมวลผลเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการติดต่อสื่อสารทาง ธุรกิจในขั้นต้นและกิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็น (เช่น การเข้าทำสัญญา การยืนยันตัวตน การสร้างบัญชีการรับคำสั่งซื้อ การส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือเอกสาร การรับเช็ค กระบวนการชำระเงิน)
  • การเก็บรวบรวมและประมวลผลเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อการสอบสวนข้อร้องเรียนและการชดใช้ค่าเสียหาย
  • การติดต่อและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของญาติหรือผู้ติดต่อของท่านในกรณีฉุกเฉิน (เช่น ผู้ติดต่อฉุกเฉินของ พนักงาน)
  • การรักษาความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินภายในบริเวณของบริษัท เช่น การใช้ระบบกล้องวงจรปิดรักษาความ ปลอดภัย หรือ
  • การก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ทั่วไปของท่าน

  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการชำระเงินและภาษีตาม พระราชบัญญัติการบัญชีและประมวลรัษฎากร
  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการยื่นคำขอกับหน่วยงานของรัฐ และรับใบอนุญาตตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด หรือ
  • เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภายใต้กฎหมาย รวมถึงคำร้องขอที่ชอบด้วยกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลของ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ


  • ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ของท่าน เช่น การสรรหาและการจ้างงาน การตรวจบุคคลสอบอ้างอิง การประมวลผลข้อมูลสุขภาพ การประมวลผล ลายพิมพ์นิ้วมือและข้อมูลการจดจำใบหน้า การประมวลผลประวัติอาชญกรรม การประมวลผลสำเนาบัตรประจำตัว ประชาชนซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว
  • ในกรณีที่บริษัทฯ มีความประสงค์จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไปยังต่างประเทศโดยที่ประเทศ ปลายทางมีมาตรฐานความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ต่ำกว่า หรือ
  • ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนคนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถซึ่งเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม จากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลของท่านแล้วแต่กรณี

  • บริษัทในกลุ่มและบริษัทย่อย
  • หน่วยงานของรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแลหรือตุลาการ
  • สถาบันการเงิน ธนาคาร หรือบริษัทจัดการสินทรัพย์
  • บริษัทที่ปรึกษา
  • บริษัทประกัน
  • โรงพยาบาล หรือ
  • หุ้นส่วนทางธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ผู้ให้บริการหรือคู่ค้า

  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  • ท่านได้ให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้งในการโอนข้อมูลภายหลังจากที่ท่านได้รับทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการ โอนข้อมูลดังกล่าวซึ่งไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลหรือการป้องกันที่เหมาะสมเพียงพอ
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่านหรือเพื่อการดำเนินมาตรการก่อนทำสัญญา (pre-contractual measures) ตามที่ท่านขอ
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อการสิ้นสุดหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯและบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อปกป้องประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิต (vital interests) ของท่านหรือบุคคลอื่นในกรณีที่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ หรือ
  • การโอนข้อมูลเป็นจำเป็นเพื่อเหตุผลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

  • ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่หรือรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว
  • บริษัทฯ เชื่อว่าการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ดังกล่าวหรือรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ ไม่สามารถ กระทำได้หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยเป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการ ที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและผลประโยชน์ของท่าน
  • เป็นกรณีเร่งด่วนที่จำเป็นต้องใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมตามกฎหมายและบริษัทฯ ได้ จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของท่าน หรือ
  • การโอนข้อมูลเป็นการจำเป็นเพื่อการสิ้นสุดหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯและบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
  • บริษัทฯ รับทราบหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการปฏิบัติหน้าที่ อาชีพหรือวิชาชีพ และบริษัทฯ ได้รักษา วัตถุประสงค์ใหม่หรือรายละเอียดบางส่วนไว้เป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนด

1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บไว้ หรือท่านสามารถขอให้บริษัทฯ เปิดเผย แหล่งที่มาที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
บริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด โดยจะไม่เกินสามสิบ (30) วันหลังจากที่ได้รับคำขอจากท่าน
2) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล/องค์กรอื่นหรือขอดูข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ถูกเก็บ รวบรวมที่บริษัทฯ ได้โอนไปยังบุคคล/องค์กรอื่น เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านด้วยเหตุทาง เทคนิค
3) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม
ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม เว้นแต่มีเหตุที่ทำให้ท่านไม่สามารถ คัดค้านได้ เหตุดังกล่าวอาจรวมถึงกรณีที่บริษัทฯ มีประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายหรือเมื่อการประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมเป็นการปฏิบัติตาม การใช้สิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายหรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ
4) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถ ระบุตัวตนได้ (anonymise) ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไม่มีความจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้เก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยอีกต่อไป
ข) ท่านได้ถอนความยินยอมของท่านจากการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยที่กระทำบนความยินยอมของท่านและ บริษัทฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บ รวบรวม
ค) ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมและบริษัทฯ ไม่มี ฐานทางกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอของท่าน และ/หรือ
ง) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมายภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล
5) สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในกรณีดังต่อไปนี้
ก) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ทำให้เข้าใจผิด
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมสมควรต้องถูกลบหรือทำลายเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎหมาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
ค) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้ทำการเก็บรักษาไว้เพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้ สิทธิหรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย และ/หรือ
ง) บริษัทฯ อยู่ในระหว่างรอการยืนยันความถูกต้องเพื่อปฏิเสธคำขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวม
6) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ทำให้เข้าใจผิด หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะบันทึกการปฏิเสธพร้อมด้วยเหตุผล
7) สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน
ท่านมีสิทธิยื่นร้องเรียนในกรณีที่บริษัทฯ ผู้ประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ รวมทั้งพนักงานหรือผู้รับเหมาของบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศอื่น ๆ ภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
8) สิทธิในการถอนความยินยอม
ท่านสามารถถอนความยินยอมของท่านได้ตลอดเวลา เว้นแต่บริษัทฯ มีฐานทางกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอของท่าน โดยบริษัทฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่าการถอนความยินยอมของท่านอาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่บริษัทฯ มีกับ ท่าน หรือสินค้าและ/หรือบริการที่ท่านได้จะรับจากบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่หลังจากที่ถอนความ ยินยอมแล้วอาจไม่เพียงพอต่อการให้บริการของบริษัทฯ ครบถ้วนตามที่ท่านต้องการ หรือบริษัทฯ อาจต้องใช้เวลาใน การขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่าน
หากท่านเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการที่บริษัทฯ มีหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ถูกเก็บรวบรวมในประการใด และท่านประสงค์จะถอนความยินยอมของท่าน ท่านสามารถแจ้งบริษัทฯ ได้ตลอดเวลาโดยทำตามขั้นตอนการถอน ความยินยอมของบริษัทฯ ได้ที่ HC E-Book ส่วนหัวข้อ Policy หรือ fnthaidairies.com